เบื้องหลังตลาด

AMD หรือ Nvidia: ลงทุนอะไรดีกว่ากัน

ด้วย Paul Reid

nvda vs mad [light]

หุ้นกลุ่มเทคฯ เป็นที่สนใจของตลาดนับตั้งแต่ปี 2023 จากความนิยมแชทบอท AI อย่างล้นหลาม การเปิดตัวเครื่องมือพัฒนาเกมที่น่าทึ่ง การขยายตัวของศูนย์เกมทั่วโลก และล่าสุดคือการสร้างวิดีโอจากข้อความ

เนื่องด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่กำลังเกิดขึ้น ทั้ง NVDA และ AMD ต่างดูจะมีเส้นทางการปรับตัวเป็นขาขึ้นยาวนาน แต่หนึ่งในนั้นเป็นตัวเลือกการเทรดที่ดีกว่า และอาจไม่ใช่หุ้นที่อยู่ในใจคุณ

ผลงานที่แจ่มจรัสของ Nvidia

Nvidia เหนือกว่าอย่างแท้จริงด้วยมูลค่าหุ้นที่ทะยานไปมากกว่า 80% ภายในปีนี้เพียงปีเดียว การปรับตัวขึ้นนี้ไม่ใช่แค่ผลสะท้อนความเชื่อมั่นของตลาด แต่ยังเป็นบทพิสูจน์ของการเติบโตของรายได้ ความสามารถทำกำไรที่น่าเชื่อถือ และกระแสเงินสดมหาศาลของบริษัท การประเมินมูลค่าของ Nvidia ยังคงน่าสนใจเมื่อเริ่มต้นไตรมาสที่ 2 โดยมีอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (PE) อยู่ที่ 30 PE ที่สูงแสดงว่า Nvidia อาจยังคงมีมูลค่าสำหรับนักลงทุน

ทั้งหมดนี้ฟังดูดีในทางทฤษฎี แต่การเปิดบัญชีซื้อขายแล้วเปิดสถานะ Long หุ้น Nvidia อาจทำให้เกิดความหวาดหวั่นเล็กน้อย แม้เทคโนโลยี AI และ Nvidia อาจดูเป็นอนาคตของแทบจะทุกสิ่งทุกอย่าง แต่เทรดเดอร์ระยะยาวอย่างผมมักจะไม่ซื้อในราคาที่สูงเป็นประวัติการณ์ และตอนนี้ NVDA ก็อยู่ใกล้กับจุดสูงสุดอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้น การปรับตัวขึ้นล่าสุดก็เป็นรูปแบบพาราโบลิก ดังนั้น ความคิดที่ว่าราคาอาจอยู่ในภาวะการซื้อมากเกินไปและพร้อมจะปรับฐานนั้นอาจไม่ได้ฟังดูไร้เหตุผล

หากคุณคิดจะเทรด NVDA คุณควรรอรายงานข้อมูลปัจจัยพื้นฐานหรือการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อช่วยประเมินทิศทางของตลาด

ราคา Nvidia อยู่ในระดับสูงและหากบทบาทของบริษัทในความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของโลกยังคงแข็งแกร่ง ก็ดูมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยอาจมีการปรับตัวลงเล็กน้อยระหว่างทาง

AMD พร้อมแล้วสำหรับการปรับตัวขึ้น

AMD แตกต่างจาก NVDA โดยดิ่งลงจากจุดสูงสุดที่ 221 ดอลลาร์ลงมาอยู่ที่ 181 ดอลลาร์ แน่นอนว่าการปรับตัวลดลงทำให้เทรดเดอร์จำนวนมากเข้าซื้อ แต่ก่อนที่คุณจะพิจารณาเพิ่ม AMD ในพอร์ทการลงทุนของคุณ เรามาดูว่าการปรับตัวลงในปัจจุบันมีโอกาสเป็นแนวโน้มอย่างในปี 2022 หรือไม่

หุ้น AMD ปรับตัวเพิ่มขึ้น 24.25% ในปีนี้ แม้อาจดูเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ Nvidia แต่ด้วยการเติบโตของกำไรต่อหุ้นที่คาดการณ์ไว้ที่ 24.96% ของบริษัทในอีกห้าปีที่จะถึงตอกย้ำการเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในกลุ่มเทคโนโลยี โดยทั่วไปแล้ว ดูจะไม่มีเรื่องอะไรต้องกังวลสำหรับ AMD แต่มีสัญญาณของปัญหาเล็กน้อยบางอย่างและสื่อบางสำนักได้ตัดสินใจให้ความสำคัญกับเรื่องนี้

อัตราส่วน PE ของ AMD อยู่ที่ 33 ซึ่งส่งผลให้นักวิเคราะห์บางรายให้ความเห็นว่าตลาดและนักลงทุนมีความคาดหวังสูงต่อบริษัท อัตราส่วน PE ที่สูงแสดงให้เห็นว่าราคาหุ้นอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับรายได้ บ่งชี้ว่านักลงทุนคาดหวังการเติบโตที่สูง และหากการเติบโตนั้นไม่เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ นักลงทุนก็จะเริ่มเทขาย

นอกจากข้อสงสัยสำคัญที่เพิ่งเกิดขึ้นในสื่อการเงิน การเปลี่ยนคอมพิวเตอร์แบรนด์ตะวันตกของรัฐบาลจีนกำลังถูกอ้างว่าเป็นสาเหตุให้ราคาหุ้น AMD ตกลงมาในเดือนมีนาคม สมมติฐานส่งเดชที่แปลกประหลาดซึ่งส่งผลให้ความเชื่อมั่นเปลี่ยนแปลงและทำให้ AMD สูญเสียมูลค่าตามราคาตลาดมากกว่า 50,000 ล้านดอลลาร์

เหตุใดการเปลี่ยนแปลงที่ไม่สลักสำคัญนั้นจึงส่งผลให้มูลค่าตามราคาตลาดสูญหายไปถึง 50,000 ล้านดอลลาร์

ยังมีเรื่องราวมากกว่าที่คนทั่วไปรับรู้

ตราบใดที่ AMD ยังคงเกี่ยวข้อง ก็มีแนวโน้มที่บริษัทจะมีบทบาทสำคัญในช่วงเวลาที่ AI รุ่งโรจน์ สถาปัตยกรรมไมโครของ CPU รุ่นต่อไปของ AMD ที่เรียกกันว่า Zen 5 กำลังจะเปิดตัว และมีข่าวรั่วไหลออกมาว่าจะเป็นตัวปฏิวัติวงการที่จะรองรับโปรเซสเซอร์ซีรีส์ Ryzen ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายอยู่แล้ว

กลับมาที่คำถามเมื่อตอนต้นอีกครั้งว่าควรลงทุนหรือไม่ จากข่าวลือที่แพร่สะพัดว่าจะเกิดการปรับฐานขาลงอีกครั้ง ความเชื่อมั่นของตลาดอาจกระตุ้นให้มีการเทขายเพิ่มและมีความผันผวนมากขึ้น แต่โดยรวมแล้ว AMD ยังมีอนาคตที่สดใส ในระยะยาว เราอาจเห็นการเติบโตอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องหลายปี โดยอาจมีเรื่องเกินการคาดการณ์ของตลาดครั้งใหญ่เกิดขึ้นระหว่างความสำเร็จและความล้มเหลว

สรุป

ผลงานที่ยอดเยี่ยมของ Nvidia และการวางตำแหน่งเชิงกลยุทธ์และการประเมินมูลค่าที่น่าพอใจ อาจทำให้หุ้นตัวนี้กลายเป็นการลงทุนที่น่าสนใจกว่าสำหรับผู้ที่มองหาโอกาสทำกำไรในการเติบโตของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี

AMD ก็เป็นคู่แข่งสำคัญที่มีมุมมองการเติบโตที่สดใส และการปรับตัวลงในปัจจุบันก็เป็นจุดเข้าซื้อที่น่าสนใจอย่างมาก หากไม่กลับไปเป็นขาลงอีกครั้ง

ทั้ง AMD และ Nvidia ก็ดึงดูดนักลงทุนด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีและบทบาทที่สำคัญในอนาคตของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์


ข้อมูลนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำการลงทุน ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาไม่อาจใช้เป็นเครื่องบ่งชี้ผลการดำเนินงานในอนาคต เงินลงทุนของคุณมีความเสี่ยง โปรดเทรดอย่างรอบคอบ


ผู้เขียน:

Paul Reid

Paul Reid

พอล รีด เป็นนักข่าวด้านการเงินที่ทุ่มเทในการเผยให้เห็นถึงความเชื่อมโยงพื้นฐานที่ซ่อนอยู่ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่เทรดเดอร์ พอลมีความสนใจด้านตลาดหุ้นเป็นพิเศษ โดยสามารถอ่านเกมการเปลี่ยนแปลงของบริษัทใหญ่ๆ ได้อย่างเฉียบขาดจากการติดตามตลาดการเงินมายาวนานกว่าทศวรรษ