เบื้องหลังตลาด

คู่มือการเทรดด้วย Fibonacci Retracement

ด้วย Paul Reid

trading with Fibonacci retracement tool

เครื่องมือ Fibonacci Retracement อาจดูยุ่งยากซับซ้อน แต่จริงๆ แล้ว เครื่องมือนี้ใช้งานค่อนข้างง่ายถ้าคุณเข้าใจหลักการพื้นฐาน เราจะมาแนะนำแนวคิดหลักและขั้นตอนในการใช้เครื่องมือเทรด Fibonacci Retracement อย่างมีประสิทธิภาพร่วมกับกลยุทธ์การเทรดของคุณ

ต้นกำเนิดของเครื่องมือ Fibonacci Retracement

Fibonacci Retracement ถูกตั้งขึ้นตามชื่อของ Leonardo Fibonacci นักคณิตศาสตร์ที่ค้นพบชุดตัวเลขที่มีคุณสมบัติทางคณิตศาสตร์ที่เป็นเอกลักษณ์ โดยชุดตัวเลขนี้มีชื่อว่าลำดับ Fibonacci

ตัวเลข Fibonacci สร้างขึ้นจากการเพิ่มยอดรวมของตัวเลขสองตัวก่อนหน้า โดยเริ่มจาก 0 เป็น 1 และต่อเนื่องกันไปดังนี้ 0, 1, 1, 2, 3, 5, 8, 13, 21, 34, 55, 89, 144 ต่อไปเรื่อยๆ อัตราส่วนนี้ปรากฏอยู่ในธรรมชาติ สถาปัตยกรรม ดาราจักร และแม้แต่ร่างกายมนุษย์ และยังเกิดขึ้นในการเทรดด้วย ตัวเลขสำคัญที่สร้างขึ้นจากลำดับนี้คือ "อัตราส่วนทองคำ Fibonacci" ซึ่งมีค่าประมาณ 1.618

1.618 ถูกพลิกกลับกลายเป็น 0.618 หรือ 61.8% จากจุดนี้ มีการสร้างระดับต่างๆ เพิ่มขึ้นเป็น 23.6%, 38.2%, 50% และ 78.6% ซึ่งเป็นระดับการย้อนกลับที่เป็นสัญญาณของโอกาสในการกลับตัว เทรดเดอร์สายเทคนิควิเคราะห์บนสมมติฐานที่ว่า หากการย้อนกลับหรือการปรับตัวลงของราคาถึงหนึ่งในระดับเหล่านี้ ก็มีโอกาสเป็นไปได้มากว่าแนวโน้มจะกลับไปยังทิศทางเดิมต่อจากจุดนี้

การใช้ Fibonacci Retracement

วิธีที่ดีที่สุดในการเรียนรู้คือการฝึกฝน ดังนั้นโปรดลองเปิดกราฟบนเทอร์มินัลการซื้อขายของ Exness วาง Fibonacci Retracement ลงบนกราฟโดยไปที่แถบกล่องเครื่องมือซึ่งอยู่ทางด้านซ้ายของกราฟ คุณจะเห็นไอคอน 4 เส้น (ไอคอนรูปสี่เหลี่ยม) ถัดลงมาจากเส้นกากบาท

สำหรับจุดสูงสุดของราคาล่าสุดที่เป็นขาลงอยู่ ให้เริ่มวาด Fibonacci Retracement ที่จุดต่ำสุดล่าสุด แล้วกดลูกศรลากไปยังจุดสูงสุดล่าสุด เส้นสีต่างๆ จะยืดออกบนกราฟเพื่อแสดงระดับการย้อนกลับ

หากปัจจุบันราคาเป็นขาลง ให้เริ่มวาด Fibonacci Retracement ที่จุดสูงสุดล่าสุด โดยกดลูกศรลากไปยังจุดต่ำสุดล่าสุด ขณะนี้ระดับต่างๆ กำลังแสดงบนกราฟ ก็ถึงเวลาวิเคราะห์กราฟและเริ่มคาดการณ์กันต่อ

การระบุการย้อนกลับของราคาโดยใช้ระดับ Fibonacci Retracement

เริ่มด้วยการระบุแนวโน้มราคาที่ชัดเจนบนกราฟเทรดของคุณ โดยอาจเป็นแนวโน้มขาขึ้น (ราคาปรับตัวขึ้น) หรือแนวโน้มขาลง (ราคาปรับตัวลง) 

ตัวอย่างแนวโน้มขาขึ้น

หากสินทรัพย์อยู่ในแนวโน้มขาขึ้นและเริ่มดึงกลับ ให้ใช้ Fibonacci Retracement หากราคาปัจจุบันย้อนกลับไปยังระดับ 38.2% และยังคงแนวโน้มขาขึ้นต่อ แสดงว่าระดับดังกล่าวเป็นแนวรับที่แข็งแกร่ง

ตัวอย่างแนวโน้มขาลง

สำหรับแนวโน้มขาลง หากราคาย้อนกลับไปยังระดับ 61.8% แล้วมีการกลับตัว แสดงว่าระดับดังกล่าวเป็นแนวต้านที่แข็งแกร่ง จึงเป็นจุดเข้าเทรดที่เหมาะสมสำหรับการเทรดระยะสั้น ให้เฝ้าดูการเคลื่อนไหวของราคาเมื่อถึงระดับเหล่านี้

แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับ Fibonacci Retracement

ตอนนี้คุณก็ทราบวิธีกำหนดระดับ Fibonacci Retracement บนกราฟแล้ว แต่สินทรัพย์ใดและกรอบเวลาใดที่เหมาะสำหรับเครื่องมือคาดการณ์นี้

ระดับ Fibonacci Retracement สามารถใช้ได้กับสินทรัพย์ทุกประเภท โดยพบการดีดกลับที่ระดับการย้อนกลับนี้ทั่วทั้งโลกการเงิน สำหรับกรอบเวลานั้น Fibonacci Retracement จะมีความแม่นยำที่สุดในกรอบเวลาที่ยาวขึ้นอย่างกราฟรายวันหรือรายสัปดาห์ กรอบเวลาที่สั้นอาจมีระดับการย้อนกลับที่น่าเชื่อถือน้อยกว่า ดังนั้น เทรดเดอร์รายวันอาจไม่เลือกใช้เครื่องมือ Fibonacci Retracement ในการคาดการณ์

เพื่อปรับปรุงความน่าเชื่อถือของผลลัพธ์ ลองพิจารณาการใช้เครื่องมือ Fibonacci Retracement ร่วมกับอินดิเคเตอร์ทางเทคนิคอื่นๆ เพื่อยืนยันข้อสังเกตในการเทรดของคุณก่อนทำการเทรด

นอกจากนี้ ควรกำหนดกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงไว้ด้วย อย่าใช้อิควิตี้ทั้งหมดของคุณลงในการเทรดครั้งเดียว เนื่องจากความผันผวนของตลาดอาจกวาดเงินในบัญชีของคุณไปจนหมด ลองตั้ง Stop Loss เพื่อจำกัดผลขาดทุนที่อาจเกิดขึ้น

บทสรุป

Fibonacci Retracement รวมถึงเครื่องมือและอินดิเคเตอร์ที่มีประสิทธิภาพอื่นๆ ช่วยกำจัดการเดาสุ่มในการคาดการณ์และการวิเคราะห์ของเทรดเดอร์ และทำให้เทรดเดอร์สามารถจดจ่อกับการหาเหตุผลทางคณิตศาสตร์ได้มากขึ้น Fibonacci Retracement ยังเป็นวิธีการที่นิยมใช้และแนะนำกันอย่างมากในกลุ่มเทรดเดอร์ แต่ดังที่กล่าวไว้ในคำจำกัดสิทธิ์ความรับผิดชอบ ผลงานที่ผ่านมาไม่สามารถใช้รับประกันผลงานในอนาคตได้

ค่าผิดปกติและการเคลื่อนไหวของราคาที่ไม่คาดคิดจะเกิดขึ้นอยู่เสมอ โดยมักเกี่ยวข้องกับปัจจัยพื้นฐาน เราจึงขอแนะนำอย่างยิ่งให้คุณใช้อินดิเคเตอร์อื่นๆ ควบคู่กับเครื่องมือ Fibonacci Retracement นอกจากนี้ รายงานข้อมูล ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และความวุ่นวายทางการเมืองยังอาจส่งผลต่อรูปแบบตลาดด้วย ดังนั้นไม่ควรคาดการณ์โดยอาศัยการวิเคราะห์ทางเทคนิคเพียงอย่างเดียว


ข้อมูลนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำการลงทุน ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาไม่อาจใช้เป็นเครื่องบ่งชี้ผลการดำเนินงานในอนาคต เงินลงทุนของคุณมีความเสี่ยง โปรดเทรดอย่างรอบคอบ


ผู้เขียน:

Paul Reid

Paul Reid

พอล รีด เป็นนักข่าวด้านการเงินที่ทุ่มเทในการเผยให้เห็นถึงความเชื่อมโยงพื้นฐานที่ซ่อนอยู่ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่เทรดเดอร์ พอลมีความสนใจด้านตลาดหุ้นเป็นพิเศษ โดยสามารถอ่านเกมการเปลี่ยนแปลงของบริษัทใหญ่ๆ ได้อย่างเฉียบขาดจากการติดตามตลาดการเงินมายาวนานกว่าทศวรรษ